โรคเบาหวานในผู้สูงอายุ สาเหตุ อาการ และวิธีดูแล

    โรคเบาหวานในผู้สูงอายุ เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติอย่างเรื้อรัง เนื่องจากการผลิตฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อนลดลง หรือร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่ออายุมากขึ้น สัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อจะเพิ่มขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายลดลง และการตอบสนองต่ออินซูลินลดลง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2565 ระบุว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทยป่วยด้วยโรคเบาหวานคิดเป็นร้อยละ 21.12 ของผู้สูงอายุทั้งหมด ซึ่งเป็นอันดับสองรองจากโรคความดันโลหิตสูง

  1. โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
  2. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
  3. โรคหัวใจ (Heart Disease)
  4. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
  5. โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
  6. โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
  7. โรคต้อกระจก (Cataract)
  8. โรคต้อหิน (Glaucoma)
  9. โรคสมองเสื่อม (Dementia)
  10. โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ (Depression in the Elderly)
  11. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease)
  12. โรคมะเร็ง (Cancer)
สารบัญความรู้ เบาหวานในผู้สูงอายุ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน

  • กรรมพันธุ์ หากมีสมาชิกในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้น

  • พฤติกรรมการกิน การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารจานด่วน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและขาดเส้นใยอาหารอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น

  • การใช้ชีวิต การขาดการออกกำลังกายและการนั่งนาน ๆ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

  • อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของตับอ่อนและการตอบสนองต่ออินซูลินจะลดลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น

ระดับน้ำตาลในเลือดที่ควรระวังในผู้สูงอายุ

  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (Fasting Plasma Glucose) ควรอยู่ระหว่าง 90-130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

  • ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1C) ควรน้อยกว่า 7.5% สำหรับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง

อาการทั่วไปของโรคเบาหวาน

  • ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกจากเลือด

  • กระหายน้ำมากขึ้น การปัสสาวะบ่อยทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ จึงรู้สึกกระหายน้ำบ่อยขึ้น

  • หิวบ่อยและน้ำหนักลด แม้จะรับประทานอาหารมากขึ้น แต่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้น้ำหนักลดลง

  • อ่อนเพลีย เนื่องจากเซลล์ไม่ได้รับพลังงานเพียงพอ

  • มองเห็นไม่ชัดเจน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำให้เลนส์ตาบวม ส่งผลให้การมองเห็นเปลี่ยนแปลง

  • แผลหายช้า การไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีและระดับน้ำตาลสูงส่งผลให้การรักษาแผลช้าลง

อาการที่พบในผู้สูงอายุ

  • น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ แม้จะรับประทานอาหารปกติหรือน้อยลงเล็กน้อย แต่น้ำหนักกลับลดลงอย่างรวดเร็ว

  • ภาวะขาดน้ำ การปัสสาวะบ่อยและการดื่มน้ำน้อยอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้ง ปากแห้ง และรู้สึกเวียนศีรษะ

  • การติดเชื้อบ่อยครั้ง เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง

วิธีตรวจเบาหวาน

1. การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (Fasting Blood Sugar: FBS) เป็นการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากงดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อประเมินการควบคุมระดับน้ำตาลของร่างกาย

  • ค่าปกติ น้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  • ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  • เป็นเบาหวาน 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป

 

2. การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (Postprandial Blood Sugar) เป็นการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารหรือดื่มสารละลายน้ำตาล 75 กรัม

  • ค่าปกติ น้อยกว่า 140 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  • ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน 140-199 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  • เป็นเบาหวาน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป

 

3. การตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด (Hemoglobin A1c: HbA1c) เป็นการตรวจวัดค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่จำเป็นต้องงดอาหารก่อนตรวจ

  • ค่าปกติ น้อยกว่า 5.7%
  • ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน 5.7-6.4%
  • เป็นเบาหวาน 6.5% ขึ้นไป

การตรวจ HbA1c มีความสำคัญเนื่องจากสะท้อนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระยะยาว ช่วยในการประเมินความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

การรักษาโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ

  • การใช้ยา ผู้ป่วยเบาหวานมักได้รับยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  • การใช้อินซูลิน ในกรณีที่การใช้ยาเม็ดไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี แพทย์อาจแนะนำการฉีดอินซูลิน ซึ่งมีหลายประเภท เช่น อินซูลินพื้นฐาน (Basal) และอินซูลินก่อนมื้ออาหาร (Bolus) การเลือกใช้อินซูลินจะขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย

การดูแลด้านโภชนาการ

  • ลดการบริโภคแป้งและไขมัน ควรลดปริมาณแป้งและไขมันในอาหาร เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด

  • หลีกเลี่ยงอาหารหวานและมัน ลดการบริโภคอาหารที่มีรสหวานและมัน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด

  • เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง การรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูงช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

การดูแลสุขภาพจิตของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวาน

  • การสนับสนุนทางสังคม การได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูงช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการดูแลตนเอง

  • การจัดการความเครียด การฝึกสมาธิ การทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนสามารถช่วยลดความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี

โภชนาการและอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวาน

การจัดการโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและส่งเสริมสุขภาพที่ดี

อาหารที่ควรรับประทาน

  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เลือกข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต หรือธัญพืชไม่ขัดสี เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

  • ผักและผลไม้ รับประทานผักใบเขียวและผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง หรือเบอร์รี่ เพื่อเพิ่มใยอาหารและวิตามิน

  • โปรตีนไร้ไขมัน เลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา เต้าหู้ หรือถั่วเมล็ดแห้ง เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและควบคุมระดับน้ำตาล

  • ไขมันดี บริโภคไขมันไม่อิ่มตัวจากแหล่งเช่น อะโวคาโด ถั่ว และน้ำมันมะกอก เพื่อส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

อาหารเสริมที่ช่วยควบคุมน้ำตาล

สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมอาหารจากมื้อปกติ อาจพิจารณาอาหารสูตรครบถ้วนที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีสัดส่วนสารอาหารที่เหมาะสมและคาร์โบไฮเดรตชนิดปล่อยพลังงานช้า ช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

  • มื้อเช้า โจ๊กข้าวกล้องกับเต้าหู้และผักใบเขียว

  • มื้อกลางวัน สลัดผักสดกับอกไก่ย่าง และขนมปังโฮลวีต

  • มื้อเย็น ปลานึ่งกับข้าวซ้อมมือ และผักต้มหลากสี

  • ของว่าง โยเกิร์ตไขมันต่ำกับผลไม้สด เช่น เบอร์รี่หรือแอปเปิ้ล

การป้องกันโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ

การป้องกันโรคเบาหวานในผู้สูงอายุสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการออกกำลังกายและการควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือด

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนัก และลดความเครียด

การออกกำลังกาย

  • การเดินเร็ว เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ควรเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน

  • การว่ายน้ำ ช่วยเผาผลาญแคลอรีและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ควรว่ายน้ำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 10-30 นาที
  • โยคะ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย ควรฝึกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที

การควบคุมระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c)

การควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวาน ควรตรวจระดับ HbA1c อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และรักษาระดับให้น้อยกว่า 7% เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • การรับประทานอาหารที่เหมาะสม เลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี และหลีกเลี่ยงอาหารหวาน

  • การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ

ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานสามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะหลายส่วนของร่างกาย หากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

ผลกระทบของเบาหวานต่ออวัยวะต่าง ๆ

  1. ไต ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเวลานานอาจทำให้หลอดเลือดเล็ก ๆ ในไตเสียหาย ส่งผลให้ไตทำงานผิดปกติ และอาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้

  2. หัวใจ ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น หัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด
  3. ตา เบาหวานสามารถทำลายหลอดเลือดในจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นลดลง และอาจนำไปสู่การตาบอดได้

การป้องกันภาวะแทรกซ้อน

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
  • ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจตา ไต และหัวใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเลือด รักษาความดันโลหิตและระดับไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพที่ดี

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเบาหวานในผู้สูงอายุ

โรคเบาหวานในผู้สูงอายุแตกต่างจากวัยอื่นอย่างไร?

โรคเบาหวานในผู้สูงอายุอาจมีอาการแสดงไม่ชัดเจน เช่น ไม่มีอาการกระหายน้ำหรือปัสสาวะบ่อยเหมือนวัยหนุ่มสาว แต่อาจพบปัญหาน้ำหนักลด อ่อนเพลีย หรือแผลหายช้าได้ง่าย

  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • มองเห็นไม่ชัด
  • มีบาดแผลที่หายช้ากว่าปกติ
  • ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน

ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างน้อย ปีละ 1-2 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นหากมีความเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน

  • ค่าน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 90-130 mg/dL
  • ค่าระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) น้อยกว่า 7.5%
  • อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม
  • อาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น ของทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป
  • อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม
  • อาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น ของทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป

สามารถกินได้ แต่ควรเลือกผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล เบอร์รี่ ส้ม และหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ลำไย มะม่วงสุก

  • โรคไตเสื่อมและไตวาย
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ปัญหาการมองเห็น เช่น เบาหวานขึ้นตา
  • แผลเรื้อรัง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • หลีกเลี่ยงความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ

คุณสามารถติดต่อ Need Nurse Group ได้หลายช่องทาง

  • LINE @NEEDNURSE

  • ที่อยู่ 21/240 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

ทีมงานมืออาชีพของ Need Nurse Group พร้อมตอบคำถามและให้คำปรึกษาโดยตรง เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลและบริการที่ดีที่สุดในการดูแลผู้สูงอายุ, เด็กเล็ก และผู้ป่วย

Nicha
เมื่อคนที่คุณรักต้องการการดูแลที่ดีที่สุด แต่คุณเองก็ต้องการความสบายใจ Need ผู้ดูแล ... นึกถึง Need Nurse เพราะเราคือคำตอบของความอุ่นใจและการดูแลที่คุณวางใจได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า