โรคข้อเข่าเสื่อมภาวะที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

    โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่า ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดอาการปวดข้อเข่า ข้อฝืด และจำกัดการเคลื่อนไหว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ความพิการและเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้ม 

    จากการศึกษาของ ราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ พบว่า ผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีโอกาสเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมถึง ร้อยละ 30.88 โดยปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม ได้แก่ ดัชนีมวลกายสูง (OR = 2.12), ความเสี่ยงต่อการรู้คิดบกพร่อง (OR = 3.97), อาการปวดเข่า (OR = 15.32) และ ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันลดลง (OR = 4.76) ผู้สูงอายุที่เป็น โรคข้อเข่าเสื่อม มักมีคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพลดลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีอาการข้อเข่าเสื่อม โดยพบว่าผู้ที่ไม่มีอาการจะมีสุขภาพและความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันดีกว่ากลุ่มที่มีอาการอย่างชัดเจน

  1. โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
  2. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
  3. โรคหัวใจ (Heart Disease)
  4. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
  5. โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
  6. โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
  7. โรคต้อกระจก (Cataract)
  8. โรคต้อหิน (Glaucoma)
  9. โรคสมองเสื่อม (Dementia)
  10. โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ (Depression in the Elderly)
  11. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease)
  12. โรคมะเร็ง (Cancer)
สาระบัญโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

สาเหตุและปัญจัยเสี่ยงของภาวะข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

     โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่กระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าสึกกร่อน ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างกระดูก ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม และข้อยึดติด ปัจจัยที่ทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อม

  • อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อรอบข้อจะเสื่อมสภาพ ทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ง่ายขึ้น
  • เพศ ผู้หญิงมีแนวโน้มเป็นข้อเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะหลังวัยหมดประจำเดือน
  • น้ำหนักตัวเกิน น้ำหนักที่มากเกินไปเพิ่มแรงกดบนข้อเข่า ทำให้กระดูกอ่อนสึกกร่อนเร็วขึ้น
  • การใช้งานข้อเข่าที่ไม่เหมาะสม การนั่งยอง ๆ คุกเข่า หรือยกของหนักบ่อย ๆ ทำให้ข้อเข่ารับแรงกดมากเกินไป
  • ประวัติการบาดเจ็บที่ข้อเข่า การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่ข้อเข่าในอดีต เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อมในอนาคต
  • กรรมพันธุ์ หากมีประวัติครอบครัวเป็นข้อเข่าเสื่อม ความเสี่ยงในการเกิดโรคจะเพิ่มขึ้น
  • โรคประจำตัว โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือโรคเกาต์ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อมได้
Stages of Osteoarthritis

อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม

  • อาการปวดเข่า ปวดบริเวณข้อเข่า โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหวหรือใช้งานข้อเข่า เช่น เดินขึ้น-ลงบันได หรือยืนเป็นเวลานาน อาการปวดอาจลดลงเมื่อพักการใช้งานข้อเข่า
  • ข้อเข่าบวมและอักเสบ ข้อเข่าอาจมีอาการบวม แดง และรู้สึกร้อน เนื่องจากการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบข้อ
  • ข้อฝืดหรือยึดติด รู้สึกข้อเข่าฝืดหรือเคลื่อนไหวได้ยาก โดยเฉพาะหลังจากการพักหรือหยุดเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
  • เสียงกรอบแกรบในข้อเข่า เมื่อเคลื่อนไหวข้อเข่า อาจได้ยินเสียงกรอบแกรบ เนื่องจากการเสียดสีของกระดูกที่ไม่มีชั้นกระดูกอ่อนรองรับ
  • ข้อเข่าผิดรูป ในกรณีที่โรคข้อเข่าเสื่อมมีความรุนแรง ข้อเข่าอาจมีการโก่งหรือผิดรูป ทำให้การเดินหรือการเคลื่อนไหวไม่ปกติ

วิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

โรคข้อเข่าเสื่อม มีทั้งวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและวิธีที่ต้องผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความเหมาะสมของผู้ป่วย ดังนี้

การรักษาโดยไม่ผ่าตัด

  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิต การลดน้ำหนักและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มแรงกดบนข้อเข่า เช่น การนั่งยอง ๆ หรือยกของหนัก สามารถช่วยลดอาการและชะลอการเสื่อมของข้อเข่าได้
  • การใช้ยา ยาลดปวดและยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) มักถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบของข้อเข่า
  • กายภาพบำบัด การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อ สามารถช่วยลดอาการปวดและปรับปรุงการเคลื่อนไหวได้
  • การใช้อุปกรณ์ช่วย การใช้ไม้เท้าหรืออุปกรณ์พยุงข้อเข่า สามารถช่วยลดแรงกดบนข้อเข่าและเพิ่มความมั่นคงในการเดิน

การรักษาโดยการผ่าตัด และข้อควรระวัง

หากการรักษาโดยไม่ผ่าตัดไม่สามารถบรรเทาอาการได้ หรือข้อเข่าเสื่อมมีความรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นการแทนที่ข้อเข่าที่เสื่อมด้วยข้อเข่าเทียม ทำจากโลหะและพลาสติกพิเศษ วิธีนี้ช่วยลดอาการปวดและปรับปรุงการเคลื่อนไหวของข้อเข่า

ข้อควรระวังในการผ่าตัด

  • การติดเชื้อ หลังการผ่าตัด มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่บริเวณข้อเข่า จำเป็นต้องรักษาความสะอาดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • การเกิดลิ่มเลือด การผ่าตัดข้อเข่าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ ควรมีการเคลื่อนไหวและออกกำลังกายเบา ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกัน
  • การฟื้นฟูหลังผ่าตัด การทำกายภาพบำบัดหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของข้อเข่า

 

4 วิธีชะลอข้อเข่าเสื่อม

 

ตัวอย่างการรักษาเพิ่มเติมของโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

นอกจากการรักษาหลักที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีแนวทางการรักษาเสริมที่สามารถช่วยบรรเทาอาการ ข้อเข่าเสื่อม ได้อีก เช่น

1. การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์เพิ่มเติม

1.1 การฉีดสารหล่อลื่นเข้าสู่ข้อเข่า

    • เป็นการฉีดสาร ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยหล่อลื่นและลดแรงเสียดทานในข้อเข่า
    • เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ข้อฝืดและปวดข้อเข่า แต่ยังไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด
    • ผลของการฉีดสารนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้นานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี

1.2 การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าข้อ

    • ใช้ในกรณีที่ข้อเข่าอักเสบมากและมีอาการปวดรุนแรง
    • ยาสเตียรอยด์ช่วยลดการอักเสบ ข้อเข่าบวม และอาการปวดได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรฉีดบ่อยเพราะอาจทำให้กระดูกอ่อนเสื่อมเร็วขึ้น

2. การรักษาทางเลือก

2.1 การใช้สมุนไพรและอาหารเสริม

    • ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ที่ช่วยลดการอักเสบใน ข้อเข่าเสื่อม
    • คอลลาเจนไทป์ II มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนและลดการสึกกร่อนของข้อ
    • กลูโคซามีนและคอนดรอยตินซัลเฟต ช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูกอ่อนและบรรเทาอาการ ปวดข้อเข่าในผู้สูงอายุ

2.2 การฝังเข็ม

    • เป็นวิธีที่ใช้ในการบรรเทาอาการปวดเรื้อรังจาก ข้อเข่าเสื่อม
    • มีงานวิจัยพบว่าการฝังเข็มสามารถช่วยลดอาการปวดข้อได้ในบางราย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาแก้อักเสบได้

3. การออกกำลังกายและกายภาพบำบัด

    • ท่าบริหารข้อเข่า เช่น การยืดกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า และ การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านต่ำ เช่น การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน
    • การใช้อุปกรณ์พยุงข้อเข่า เช่น สนับเข่า หรือ รองเท้าสุขภาพ ที่ช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อเข่า

4. การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์

4.1 การรักษาด้วยคลื่นความถี่สูง (Ultrasound Therapy)

    • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณข้อเข่าเพื่อลดอาการปวดและอักเสบ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ ข้อฝืดและข้อยึดติด

4.2 การใช้เลเซอร์บำบัด

    • ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า
    • สามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟู ข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

โรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ ป้องกันและดูแลไม่ยาก

     การป้องกันและดูแลตนเองอย่างเหมาะสมสามารถช่วยชะลอการเสื่อมของข้อเข่าและบรรเทาอาการโรคข้อเข่าเสื่อมได้

วิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม

การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ลดแรงกดบนข้อ และเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า ควรเลือกการออกกำลังกายที่ไม่เพิ่มแรงกระแทกต่อข้อเข่า เช่น

  • การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและปลอดภัย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา

  • การปั่นจักรยาน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อขาโดยไม่เพิ่มแรงกดบนข้อเข่า

  • การออกกำลังกายในน้ำ เช่น การว่ายน้ำ ช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อเข่า เนื่องจากน้ำช่วยพยุงน้ำหนักตัว

นอกจากนี้ ควรบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เช่น

  • ท่านั่งเหยียดเข่า นั่งบนเก้าอี้ เหยียดเข่าตรง กระดกข้อเท้าขึ้น เกร็งกล้ามเนื้อหน้าขา ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

  • ท่ายกขาเหยียดตรง นอนหงาย เหยียดขาตรง แล้วยกขาขึ้นประมาณ 1 ฟุต ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ควรทำการบริหารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า

การปรับพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพทั่วไป

  • ควบคุมน้ำหนักตัว น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเพิ่มแรงกดบนข้อเข่า ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยคำนวณจากดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งไม่ควรเกิน 25 กิโลกรัม/เมตร²

  • หลีกเลี่ยงท่าทางที่เพิ่มแรงกดบนข้อเข่า เช่น การนั่งยอง ๆ การนั่งพับเพียบ หรือการนั่งขัดสมาธิเป็นเวลานาน

  • เลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสม รองเท้าที่มีพื้นรองรับแรงกระแทกดี ช่วยลดแรงกดบนข้อเข่า หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าส้นสูง

  • อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย เพื่อเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อและข้อ ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

  • พักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันและชะลอการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม รวมถึงเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ

โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร?

โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) คือภาวะที่กระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าเสื่อมสภาพ ทำให้กระดูกเสียดสีกันเมื่อเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม และข้อฝืด

  • อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนจะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ
  • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน น้ำหนักที่มากเกินไปเพิ่มแรงกดบนข้อเข่า
  • การบาดเจ็บที่ข้อเข่า เช่น อุบัติเหตุหรือการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป
  • กรรมพันธุ์ หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
  • อาการปวดเข่า ปวดเมื่อเคลื่อนไหวหรือยืนเป็นเวลานาน
  • ข้อเข่าบวมและอักเสบ ข้อเข่าอาจบวมและรู้สึกร้อน
  • ข้อฝืดหรือยึดติด รู้สึกข้อเข่าฝืด โดยเฉพาะหลังจากการพักหรือหยุดเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
  • เสียงกรอบแกรบในข้อเข่า เมื่อเคลื่อนไหวข้อเข่า อาจได้ยินเสียงกรอบแกรบ
  • ข้อเข่าผิดรูป ในกรณีที่โรครุนแรง ข้อเข่าอาจมีการโก่งหรือผิดรูป

การรักษามีทั้งวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและวิธีผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ

  • การรักษาโดยไม่ผ่าตัด
    • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิต ลดน้ำหนักและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มแรงกดบนข้อเข่า
    • การใช้ยา ยาลดปวดและยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
    • กายภาพบำบัด การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
    • การใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ไม้เท้าหรืออุปกรณ์พยุงข้อเข่า
  • การรักษาโดยการผ่าตัด
    • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบไม่ผ่าตัด

แม้ว่าไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสี่ยงได้โดย

  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การเดิน การปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายในน้ำ
  • ควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อไม่ให้ข้อเข่ารับน้ำหนักมากเกินไป
  • หลีกเลี่ยงท่าทางที่เพิ่มแรงกดบนข้อเข่า เช่น การนั่งยอง ๆ หรือการนั่งพับเพียบเป็นเวลานาน

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุได้ที่ นีด เนิร์ส กรุ๊ป โทร. 081-924-2635 / 082-791-6559 หรือ LINE. @NEEDNURSE

ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการปวดเข่าที่ไม่หายไปหลังจากพักหรือใช้ยาลดปวดทั่วไป หรือเมื่อข้อเข่าบวม แดง หรือมีความร้อนร่วมด้วย

Nicha
เมื่อคนที่คุณรักต้องการการดูแลที่ดีที่สุด แต่คุณเองก็ต้องการความสบายใจ Need ผู้ดูแล ... นึกถึง Need Nurse เพราะเราคือคำตอบของความอุ่นใจและการดูแลที่คุณวางใจได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า